รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210

รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210 พร้อมราคา คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และโปรโมชั่นล่าสุดแต่ละร้านค้า ทำให้คุณได้ราคาดีที่สุด

สารบัญ

คุณสมบัติของ เครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210

เหมาะกับห้องขนาด 14-24 ตร.ม.
สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้
ยับยั้งแบคทีเรียได้สูงสุด 99.9%
มีแผ่นกรองแบบ All-in-one ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กตั้งแต่ PM 2.5 ถึง PM 0.1
ปล่อยประจุ ionizer เพื่อดักจับสิ่งสกปรกในอากาศ
ปรับแรงลมได้ 4 ระดับ
ตั้งเวลาทำงานได้ 4 ระดับ สูงสุดถึง 8 ชั่วโมง
มีโหมดพิเศษ Turbo & Sleep mode

จุดเด่น

เหมาะกับห้องขนาด 14-24 ตร.ม. มีขนาดกะทัดรัด ติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานขนาดเล็ก
กรองอากาศบริสุทธิ์ด้วยแผ่นกรองแบบ All-in-one ประกอบด้วยแผ่นกรอง HEPA กรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ถึง 99.9% และแผ่นกรอง Activated Carbon กรองกลิ่นไม่พึงประสงค์
ปล่อยประจุ ionizer ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กและเชื้อโรคในอากาศ
ปรับแรงลมได้ 4 ระดับ ปรับความแรงลมได้ตามความต้องการ
ตั้งเวลาทำงานได้ 4 ระดับ สูงสุดถึง 8 ชั่วโมง สะดวกในการตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่อง
มีโหมดพิเศษ Turbo & Sleep mode โหมด Turbo เพิ่มประสิทธิภาพในการฟอกอากาศอย่างรวดเร็ว โหมด Sleep mode ทำงานเงียบเหมาะสำหรับการนอนหลับ
นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210 ยังมาพร้อมกับแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ถึง 99.9% ซึ่ง PM2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ และโรคมะเร็งปอด แผ่นกรอง HEPA จึงช่วยป้องกันคุณและคนที่คุณรักจากฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้ได้

ข้อเสียของเครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210

แผ่นกรองแบบ All-in-one มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี จึงต้องเปลี่ยนแผ่นกรองบ่อยกว่าเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองแบบแยก
แรงลมสูงสุดของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้อยู่ที่ 205 CFM ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับห้องขนาดใหญ่
ไม่มีระบบแจ้งเตือนการเปลี่ยนแผ่นกรอง จึงต้องคอยสังเกตด้วยตัวเอง

สำหรับคู่แข่งในระดับเดียวกัน มีดังนี้

Dyson TP07 เป็นเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ Dyson ที่มีระบบฟอกอากาศแบบ HEPA เช่นกัน แต่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 0.1 ไมครอน มากกว่า Midea MAP-210 เล็กน้อย บวกกับมีระบบตรวจจับและกำจัดมลพิษแบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Hitachi EP-A5000 เป็นเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ Hitachi ที่มีระบบฟอกอากาศแบบ Plasmacluster Ion ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ บวกกับมีระบบกรองอากาศแบบ 3 ขั้นตอน ทำให้สามารถกรองฝุ่นละอองได้หลากหลายขนาด
Sharp FP-J70W เป็นเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ Sharp ที่มีระบบฟอกอากาศแบบ Plasmacluster Ion เช่นกัน แต่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียได้มากกว่า Hitachi EP-A5000 เล็กน้อย บวกกับมีระบบกรองอากาศแบบ 5 ขั้นตอน ทำให้สามารถกรองฝุ่นละอองได้ละเอียดยิ่งขึ้น

รีวิวการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210 จากผู้ใช้จริง

“เครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210 ทำงานได้ดีเยี่ยม ช่วยลดฝุ่น PM2.5 และกลิ่นอับภายในห้องได้อย่างชัดเจน ใช้งานง่ายและเสียงไม่ดัง”
“เครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210 คุ้มค่ากับราคา มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM2.5 ได้ดีมาก ดีไซน์สวยและใช้งานง่าย”
“เครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210 มีข้อเสียคือแผ่นกรองมีอายุการใช้งานสั้น แต่โดยรวมแล้วถือว่าคุ้มค่ากับราคา”

โดยรวมแล้ว เครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่น MAP-210 เป็นเครื่องฟอกอากาศราคาประหยัดที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM2.5 และยับยั้งแบคทีเรียได้