คุณสมบัติของ Nintendo Switch OLED
- หน้าจอ 7 นิ้ว OLED ความละเอียด 1280×720 คมชัดกว่าจอ LCD รุ่นเดิม แสดงสีสันสดใสและดำสนิทกว่า
- ขาตั้งขนาดใหญ่ วางเครื่องได้มั่นคงกว่า เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบตั้งโต๊ะ
- ช่องเสียบ microSDXC รองรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลได้สูงถึง 2TB
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง เท่ากันกับรุ่นเดิม
- ระบบเสียงดีขึ้น เสียงทุ้มชัดขึ้น เสียงแหลมใสขึ้น
- ขนาดและน้ำหนัก ใหญ่กว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย น้ำหนัก 320 กรัม (Joy-Con รวมแล้ว 420 กรัม)
- การเชื่อมต่อ รองรับ Wi-Fi 802.11ac และ Bluetooth 4.1
- ลำโพงสเตอริโอในตัว ให้เสียงที่ชัดเจนและทรงพลัง
- รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ชาร์จเครื่องด้วยที่ชาร์จ Qi
- รองรับการเล่นเกมออนไลน์ เล่นกับผู้เล่นคนอื่นจากทั่วโลก
จุดเด่น
- หน้าจอ OLED ขนาด 7 นิ้ว ที่ให้สีสันสดใส คอนทราสต์สูง ดำสนิท และมุมมองที่กว้างกว่าหน้าจอ IPS LCD ของรุ่นปกติ
- ขาตั้งที่ใหญ่ขึ้น ทำให้สามารถวางเครื่องเล่นได้อย่างมั่นคงและปรับมุมได้หลากหลาย
- ลำโพงที่ดีขึ้น ให้เสียงที่ดังและชัดเจนกว่ารุ่นปกติ
- พื้นที่จัดเก็บภายใน 64GB เพียงพอสำหรับเกมส่วนใหญ่
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น สูงสุด 9 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นปกติ เพียง 320 กรัม
- ช่องเสียบ microSDXC รองรับการ์ดความจุสูงสุด 2TB
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่ารุ่นเดิม Nintendo Switch OLED มีราคาสูงกว่ารุ่นเดิมอยู่ประมาณ 5,000 บาท ซึ่งอาจทำให้หลายคนลังเลที่จะซื้อ
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพ Nintendo Switch OLED ยังคงใช้ชิปประมวลผลและหน่วยความจำเท่าเดิมกับรุ่นเดิม ดังนั้นจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพการเล่นเกม
- ไม่มีช่องเสียบ LAN Nintendo Switch OLED ยังคงไม่มีช่องเสียบ LAN ดังนั้นจึงไม่สามารถเล่นเกมออนไลน์ด้วยความเร็วสูงผ่านสายเคเบิลได้
รีวิวจากผู้ใช้งานจริง
- จอแสดงผล OLED เป็นจุดเด่นที่หลายคนชื่นชอบ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบจอแสดงผล OLED ขนาด 7 นิ้วที่ให้สีสันสดใสและคอนทราสต์ที่คมชัดกว่าหน้าจอ LCD ของรุ่นเดิม ช่วยให้เล่นเกมได้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น
- ขาตั้งแบบปรับได้ช่วยให้ปรับมุมมองหน้าจอได้สะดวกยิ่งขึ้น ขาตั้งแบบปรับได้ช่วยให้ผู้ใช้ปรับมุมมองหน้าจอได้ตามต้องการ ซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นเกมบนโต๊ะหรือบนเตียง
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้นช่วยให้เล่นเกมได้นานขึ้น แบตเตอรี่ของ Nintendo Switch OLED สามารถใช้งานได้นานถึง 9 ชั่วโมงในโหมดพกพา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เล่นเกมได้นานขึ้นโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ