Midea มีเครื่องฟอกอากาศให้เลือกหลายรุ่น ดังนี้
แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ
รุ่นที่ได้รับความนิยมและได้รับการรีวิวที่ดี ได้แก่
- Midea MAP-210 เหมาะสำหรับห้องขนาด 14-24 ตร.ม. มีประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 99.97% สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ถึง 0.3 ไมครอน มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ 3 ชั้น ประกอบด้วยแผ่นกรอง HEPA, แผ่นกรอง Activated Carbon และแผ่นกรอง Pre-filter
- Midea MAP-350 เหมาะสำหรับห้องขนาด 15-45 ตร.ม. มีประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 99.99% สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ถึง 0.1 ไมครอน มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ 3 ชั้น ประกอบด้วยแผ่นกรอง HEPA, แผ่นกรอง Activated Carbon และแผ่นกรอง Pre-filter
- Midea MAP-550 เหมาะสำหรับห้องขนาด 25-60 ตร.ม. มีประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 99.99% สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ถึง 0.1 ไมครอน มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ 4 ชั้น ประกอบด้วยแผ่นกรอง HEPA, แผ่นกรอง Activated Carbon, แผ่นกรอง Pre-filter และแผ่นกรอง Anti-Bacterial
- นอกจากนี้ Midea ยังมีรุ่นอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย เช่น รุ่น MAP-240, MAP-650, MAP-850, MAP-1050 เป็นต้น คุณสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ
การเลือกซื้อ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ขนาดห้องที่ต้องการใช้งาน
- ประสิทธิภาพการกรองอากาศ
- ประเภทของแผ่นกรอง
- คุณสมบัติอื่นๆ เช่น ระบบกรองอากาศแบบ Auto, เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง, หน้าจอแสดงผล เป็นต้น
โดยปกติแล้ว เครื่องฟอกอากาศ Midea รุ่นที่มีขนาดห้องการใช้งานใหญ่ขึ้น ก็จะมีราคาสูงขึ้นเช่นกัน ประสิทธิภาพการกรองอากาศที่สูงขึ้น ก็จะช่วยให้ดักจับฝุ่นละอองและเชื้อโรคได้มากขึ้น ประเภทของแผ่นกรองก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพการกรองอากาศเช่นกัน ระบบกรองอากาศแบบ Auto ช่วยประหยัดพลังงานและสะดวกสบายมากขึ้น เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละอองจะช่วยให้เครื่องฟอกอากาศสามารถปรับการทำงานให้เหมาะสมกับปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ หน้าจอแสดงผลจะช่วยให้มองเห็นสถานะการทำงานของเครื่องฟอกอากาศได้ชัดเจน
ดู เครื่องฟอกอากาศ Midea แต่ละรุ่น
รายละเอียดแต่ละรุ่น พร้อมราคา คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และโปรโมชั่นล่าสุดแต่ละร้านค้า
ค้นหาสินค้า และโปรโมชั่นล่าสุดแต่ละร้านค้า
แนะนำบริการ
SEO Post
