Philips มีให้เลือกหลายรุ่น
แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน การเลือกรุ่นไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ขนาดห้องที่ต้องการฟอกอากาศ ปริมาณฝุ่นและมลพิษในอากาศ และงบประมาณ สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นแนะนำ มีดังนี้
- รุ่น AC0820 สำหรับห้องขนาด 16-49 ตร.ม. อัตราการส่งอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 190 ลบ.ม./ชม. คุณสมบัติเด่น คือ แผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.003 ไมครอน ราคาประมาณ 3,590 บาท
- รุ่น AC1715 สำหรับห้องขนาด 25-78 ตร.ม. อัตราการส่งอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 300 ลบ.ม./ชม. คุณสมบัติเด่น คือ แผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.003 ไมครอน และแผ่นกรองถ่านกัมมันต์ที่สามารถดูดซับสารระเหยและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ราคาประมาณ 6,999 บาท
- รุ่น AC3256 สำหรับห้องขนาด 31-95 ตร.ม. อัตราการส่งอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 610 ลบ.ม./ชม. คุณสมบัติเด่น คือ แผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.003 ไมครอน และแผ่นกรองถ่านกัมมันต์ที่สามารถดูดซับสารระเหยและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ราคาประมาณ 18,999 บาท
- นอกจากนี้ Philips ยังมีเครื่องฟอกอากาศรุ่นอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย เช่น รุ่น AC1615, รุ่น AC2887, และรุ่น AC4056 เป็นต้น
การเลือกซื้อ แนะนำให้พิจารณาจากปัจจัย ดังต่อไปนี้
- ขนาดห้องที่ต้องการฟอกอากาศ หากห้องมีขนาดใหญ่ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีอัตราการส่งอากาศบริสุทธิ์ (CADR) สูง เพื่อให้สามารถฟอกอากาศได้ทั่วถึง
- ปริมาณฝุ่นและมลพิษในอากาศ หากพื้นที่ที่มีฝุ่นและมลพิษในอากาศมาก ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ดี
- งบประมาณ เครื่องฟอกอากาศ Philips มีราคาให้เลือกหลายระดับ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและเทคโนโลยีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์
ดูรายละเอียดแต่ละรุ่น
พร้อมราคา คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และโปรโมชั่นล่าสุดแต่ละร้านค้า
ค้นหาสินค้า และโปรโมชั่นล่าสุดแต่ละร้านค้า
แนะนำบริการ
SEO Post
